2011 Views |
3 เรื่องที่คุณถูกมอง เมื่อไป “สัมภาษณ์งาน”
การถูกเรียกสัมภาษณ์งาน ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่แสดงออกว่า บริษัทฯ มีความสนใจในตัวคุณ หลังจากที่เห็นข้อมูลในใบสมัครงานแล้ว ซึ่งในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการเห็นบุคลิกท่าทาง ความมั่นใจ และไหวพริบในการพูดคุยกัน
การสร้างความประทับใจแรกพบ หรือ “First impression” จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ที่ผู้สมัครต้องสร้างให้เกิดขึ้นให้ได้ในการสัมภาษณ์ เพราะนอกจากการพูดคุยตอบคำถามแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ผู้สมัครอาจจะถูกมองและพิจารณาแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย
1. การแต่งกายในวันสัมภาษณ์
ปัจจุบัน มีหลายบริษัทฯ ที่ยืดหยุ่นในเรื่องการแต่งกายของพนักงาน โดยพนักงานไม่จำเป็นต้องใส่ฟอร์มของบริษัทฯ หรือบางที่สามารถใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ มาทำงานได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ในวันสัมภาษณ์ คุณจะแต่งตัวเช่นนั้นได้
ไม่ว่าบริษัทฯจะยืดหยุ่นเพียงใด หรือคุณอาจจะรู้จักคนข้างในเป็นกรณีพิเศษ แต่การแต่งกายที่เหมาะสมยังจำเป็นเสมอ เราสามารถดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นได้ เพียงแค่เลือกที่จะแต่งกายอย่างเหมาะสม นอกจากนั้นยังเป็นการแสดงถึงความเกียรติ ต่อผู้สัมภาษณ์และสถานที่อีกด้วย
การแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิง เช่นการเลือกเสื้อผ้าที่เป็นเซ็ตเข้าชุดกัน จะดูภูมิฐานและเป็นมืออาชีพ, เลือกเสื้อที่เข้ารูปพอดีตัว ไม่หลวม หรือคับจนเกินไป, กระโปรงทรงเรียบร้อย ไม่ควรสั้น ผ่าลึก หรือยาวจนรุ่มร่าม และคลุมโทนด้วยสีสุภาพ
การแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับผู้ชาย เช่นความเรียบร้อยของเสื้อ ไม่ควรใส่เสื้อยับที่ไม่ได้รีดไปสัมภาษณ์งาน ควรสวมเสื้อทับในกรณีเป็นคนเหงื่อออกง่ายและเสื้อสีเข้ม เพื่อไม่ให้มองเห็นคราบเหงื่อ ซึ่งทำให้ดูเสียบุคลิก, กางเกงทรงพอดีตัว ไม่หลวม ไม่ซีด ถุงเท้าและรองเท้าควรเป็นสีใกล้เคียงกัน
2. ความสะอาดของร่างกาย
เรื่องความสะอาดนั้น ถือเป็นเรื่องที่แสดงออกให้เห็นถึงบุคลิกและนิสัยเบื้องต้นของผู้สมัครได้เป็นอย่างดี โดยตลอดการสัมภาษณ์นั้นคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ หากผู้สัมภาษณ์เห็นเศษอาหารติดฟัน หรือ ได้กลิ่นไม่พึงประสงค์จากตัวผู้สมัคร เป็นต้น
การรักษาความสะอาดของผู้หญิง เบื้องต้นที่จะเห็นได้ชัดเจนคือ “ผม” ควรรวบผมให้เรียบร้อย ไม่รกรุงรัง หรือหากต้องการปล่อย ควรสระไดร์ให้เรียบร้อย, เล็บสะอาด ไม่ทาสีฉูดฉาดจนเกินไป, แต่งหน้าเติมแป้งพอประมาณ ให้ดูสะอาดตาก่อนเข้าสัมภาษณ์
การรักษาความสะอาดของผู้ชาย ที่เห็นได้ชัดเจนคือ “หนวด” ไม่ว่าคุณจะเคยชินกับการไว้หนวดแค่ไหน แต่เมื่อต้องไปสัมภาษณ์งานแล้ว ควรโกนออกให้เรียบร้อย ให้ใบหน้าดูสะอาดตา รองลงมาคือ “กลิ่น” ในกรณีที่คุณต้องถอดรองเท้า เข้าห้องสัมภาษณ์ ต้องมั่นใจได้ว่า จะไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะจะเสียบุคลิกอย่างมาก ดังนั้นถุงเท้าและรองเท้าที่สะอาดเป็นเรื่องที่สำคัญมากอีกเช่นกัน
3. อารมณ์ของผู้สมัคร
มีหลายครั้งที่เราพบว่า ผู้สมัครอาจจะต้องใช้เวลาในการรอเพื่อเข้าสัมภาษณ์นานเกินเวลานัด ซึ่งอาจจะทำให้ผู้สมัครมีความร้อนใจ กรณีนัดหลายที่ หรือ หงุดหงิดอารมณ์เสียได้ หรือ การไม่ได้รับความสะดวกในบางเรื่อง เช่น การสอบถามสถานที่ การต้องรับมือกับคำถามในเชิงกดดัน
ในกรณีเหล่านี้ การเก็บอารมณ์ เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะบ่งบอกถึงวุฒิภาวะของผู้สมัคร แม้ว่าคุณจะหงุดหงิด หรือร้อนใจในการที่ต้องรอนาน หากพิจารณาแล้วว่า มีนัดสำคัญที่ต้องไปต่อ ควรแจ้งให้ทางบริษัทฯ ทราบอย่างสุภาพว่า “ผู้สมัครรู้สึกยินดีที่ได้รับเกียรติในการเรียกสัมภาษณ์ แต่เวลานัดได้ล่วงเลยมาพอสมควร และทำให้ไม่สะดวกที่จะสัมภาษณ์ในวันดังกล่าว และขอนัดใหม่ในครั้งหน้า” เป็นต้น
หรือในกรณีที่เจอคำถามที่ก่อให้เกิดอารมณ์ ควรมีสติและใช้เวลาในการคิดคำตอบนานขึ้น เพื่อกลั่นกรองไม่ได้ตอบคำถามด้วยอารมณ์กลับไป หรือ ในบางครั้ง ควรเพิ่มการ “ยิ้ม” ให้มากขึ้น หากเป็นคำถามที่ไม่สะดวกใจจะตอบ สามารถบอกผู้สัมภาษณ์ได้ เช่น “คำถามดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินไป ไม่สามารถตอบได้ ทั้งนี้ แม้จะไม่สะดวกตอบคำถามนี้ ผู้สมัครก็มั่นใจว่า จะไม่มีผลกระทบในเรื่องของความสามารถในการทำงานอย่างแน่นอน”
นี่เป็น 3 เรื่องหลัก ที่คุณจะถูกมองทั้งรู้ตัว และ ไม่รู้ตัวในวันที่ไปสัมภาษณ์งานอย่างแน่นอน ดังนั้น ใส่ใจและเตรียมตัวก่อนสักเล็กน้อย เพื่อภาพลักษณ์ที่ดี และโอกาสในการได้งานที่สูงขึ้น